top
logo
articleบล็อก
custom iconภาพรวมฟีเจอร์
language-switch

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด: วิธีเขียนคําสั่ง User-Agent อย่างถูกต้องในไฟล์ robots.txt ของคุณ

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด: วิธีเขียนคําสั่ง User-Agent อย่างถูกต้องในไฟล์ robots.txt ของคุณAlanidateTime2025-12-23 06:41
iconiconiconiconicon

เว็บไซต์จำนวนมากตั้งใจเพียงแค่บล็อกเครื่องมือเก็บข้อมูล (scraper) แต่สุดท้ายกลับไปบล็อกบ็อตของเครื่องมือค้นหาด้วยเช่นกัน

ผมยังเคยเห็นกรณีที่มีคนเขียน User-Agent จำนวนมากใน robots.txt ซึ่งดูเป็นมืออาชีพมาก แต่ในความเป็นจริงกลับไม่มีตัวใดทำงานเลย — และเซิร์ฟเวอร์ก็ยังถูก crawl อย่างหนัก

ต่อไป จากมุมมองเชิงปฏิบัติของเว็บมาสเตอร์ มาพูดคุยกันว่า User-Agent ใน robots.txt ควรถูกเขียนอย่างไรจริง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและลดความผิดพลาด

ScreenShot_2025-12-08_183126_524.png

1. User-Agent ใน robots.txt มีหน้าที่อะไรกันแน่?

User-Agent คือวิธีที่คุณบอกเครื่องมือค้นหาหรือ crawler ว่า “กฎเหล่านี้ตั้งใจใช้กับใคร”

ตัวอย่างที่พบบ่อยที่สุด: User-agent: * Disallow: /admin/ 

เครื่องหมาย * ที่นี่หมายถึง crawler ทั้งหมด รวมถึงบ็อตของเครื่องมือค้นหา เครื่องมือเก็บข้อมูล และสคริปต์อัตโนมัติบางประเภท

และถ้าคุณเขียนแบบนี้: User-agent: Googlebot Disallow: /test/ 

นั่นหมายความว่าจะจำกัดเฉพาะ crawler ของ Google เท่านั้น ส่วน crawler อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบ

ดังนั้น การเขียน User-Agent ให้ถูกต้องหรือไม่ จะส่งผลโดยตรงว่ากฎใน robots.txt จะมีผลจริงหรือไม่

2. การวิเคราะห์ User-Agent : อย่าดูแค่ชื่อ แต่ต้องตรวจสอบ “ตัวตนที่แท้จริง”

ผู้เริ่มต้นจำนวนมากมักตัดสินตัวตนจากชื่อ crawler เพียงอย่างเดียว เช่น เห็น Googlebot ใน header ก็คิดว่าเป็นบ็อตของ Google แน่นอน

แต่ในความเป็นจริง ปัจจุบันมีเครื่องมือจำนวนมากที่สามารถปลอม User-Agent ได้ การเชื่อถือแค่สตริง UA จึงไม่น่าไว้ใจ

นี่คือจุดที่การวิเคราะห์ User-Agent มีบทบาท:

•  สอดคล้องกับสเปก UA อย่างเป็นทางการหรือไม่

•  มีข้อมูลระบบที่สมเหตุสมผลหรือไม่

•  ตรงกับช่วง IP หรือไม่

•  พฤติกรรมคล้าย crawler ของเครื่องมือค้นหาปกติหรือไม่

นี่จึงเป็นเหตุผลที่เว็บมาสเตอร์บางรายอนุญาต Googlebot ใน robots.txt แต่เซิร์ฟเวอร์ก็ยังถูก crawl อย่างผิดปกติและหนักหน่วง

3. วิธีที่แนะนำในการเขียนกฎ User-Agent ใน robots.txt ให้ถูกต้อง

1️⃣ ใช้กฎ wildcard อย่างระมัดระวัง

User-agent: * Disallow: 

รูปแบบนี้ใช้ได้ แต่เฉพาะในกรณีที่คุณไม่ตั้งใจจะจำกัด crawler ใด ๆ เลยจริง ๆ

หากคุณมีแผงผู้ดูแล ระบบทดสอบ หรือหน้าเนื้อหาซ้ำ ควรกำหนดกฎแยกต่างหากจะดีกว่า

2️⃣ ประกาศเครื่องมือค้นหาหลักแยกกัน

วิธีที่ปลอดภัยกว่าคือ:

User-agent: Googlebot Allow: / User-agent: Bingbot Allow: / User-agent: Baiduspider Allow: /  

ข้อดีของวิธีนี้ได้แก่:

•  อ่านง่ายขึ้น

•  แก้ไขปัญหาในอนาคตได้ง่าย

•  หลีกเลี่ยงการบล็อกผิดพลาดจากกฎ wildcard

3️⃣ อย่าเขียน User-Agent ที่ไม่มีอยู่จริง

บทแนะนำบางแห่งสอนให้บล็อก UA ที่ “ดูหรูหรา” จำนวนมาก แต่หลายตัวในนั้นไม่มีอยู่จริง robots.txt จะไม่แจ้งข้อผิดพลาด แต่กฎเหล่านั้นแทบไม่มีประโยชน์

4. ลายนิ้วมือเบราว์เซอร์: ชั้นที่ robots.txt ควบคุมไม่ได้

เครื่องมือเก็บข้อมูลและระบบอัตโนมัติสมัยใหม่จำนวนมากไม่สนใจ robots.txt เลย สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญจริง ๆ คือ:

•  การตรวจจับลายนิ้วมือเบราว์เซอร์

•  รูปแบบพฤติกรรม

•  ความถี่ของคำขอ

•  ความสามารถในการรัน JavaScript

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ต่อให้ User-Agent ถูกเขียนได้สมบูรณ์แบบ หากไม่มีการตรวจจับลายนิ้วมือเบราว์เซอร์ขั้นพื้นฐาน ผู้โจมตีก็ยังสามารถจำลอง crawler ที่ “ดูถูกต้องทุกประการ” ได้

นี่คือเหตุผลที่หลายเว็บไซต์ในปัจจุบันผสานการระบุตัวตนด้วยลายนิ้วมือเข้ากับการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อควบคุมการเข้าถึง

5. จะรู้ได้อย่างไรว่า ตัวแยกวิเคราะห์ User-Agent นั้นน่าเชื่อถือหรือไม่?

ด้วยความช่วยเหลือจากเครื่องมือค้นหาลายนิ้วมือของ ToDetect คุณสามารถตรวจสอบได้ว่า:

•  UA ถูกนำไปใช้ซ้ำโดยเครื่องมือจำนวนมากหรือไม่

•  มีการผสมลายนิ้วมือที่ผิดปกติหรือไม่

•  สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมเบราว์เซอร์ปกติหรือไม่

•  มีลักษณะของระบบอัตโนมัติอย่างชัดเจนหรือไม่

ขั้นตอนนี้มีประโยชน์อย่างมากในการแยกแยะ “crawler จริงกับ crawler ปลอม” โดยเฉพาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดกลางถึงใหญ่

6. รายละเอียดที่มักถูกมองข้าม

•  robots.txt แยกแยะตัวพิมพ์เล็ก–ใหญ่ ชื่อ User-Agent ควรใช้ตัวพิมพ์ตามมาตรฐานทางการ

•  อย่าเขียนกฎที่ขัดแย้งกันภายใต้ User-Agent เดียวกัน

•  หลังจากแก้ไข robots.txt แล้ว ควรล้างแคชและทดสอบใหม่

•  เครื่องมือค้นหานำกฎ robots.txt ไปใช้แบบมีความล่าช้า ไม่ได้มีผลทันที

การมองข้ามรายละเอียดเหล่านี้มักทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า “robots.txt ใช้งานไม่ได้”

สรุป

หากเว็บไซต์ของคุณถูกเก็บข้อมูลอย่างหนักหรือถูก flood ด้วยทราฟฟิก อย่าคาดหวังว่ากฎ User-Agent เพียงบรรทัดเดียวจะ “บล็อกได้ทุกอย่าง”

User-Agent ใน robots.txt ต้องเป็นของจริงและเป็นมาตรฐาน อย่าพึ่งพา User-Agent เพียงอย่างเดียว — การผสานการวิเคราะห์ UA กับพฤติกรรมจะเชื่อถือได้มากกว่า

การป้องกันการเก็บข้อมูลเริ่มต้นจาก robots.txt แต่การตรวจจับลายนิ้วมือเบราว์เซอร์ของ ToDetect คือกุญแจสำคัญที่แท้จริง หากเว็บไซต์ของคุณมีขนาดใหญ่ คุณควรก้าวไปอีกขั้นด้วยการวิเคราะห์ลายนิ้วมือและพฤติกรรม